ข้องใจอย่างนึงเรื่องหมากับศาสนาอิสลามครับ

ผมจะตอบคำถามเรื่องสุนัขนี้ในทัศนะของผู้นับถือศาสนาอิสลาม ถึงแม้พวกหวงแหนศาสนาอิสลามในที่นี้จะไม่คิดว่าผมเป็นมุสลิมก็ตาม,ซึ่งพวกเขา เป็นซุนนีย์มุสลิมที่มาจากหลายสำนักครูบาอาจารย์ที่, ซึ่งผลิตมุสลิมไทยออกมาที่มึคุณภาพต่างๆกัน ดังที่เห็นอยู่ใน ห้องศาสนาพันทิปนี้..เขาสอนให้คิดว่าศาสนาอิสลามนี้เป็นของมุสลิมเท่านั้น ผู้ใดแตะต้องไม่ได้ และมุสลิมผู้ใด นับถือผิดไปจากที่ การสอนของเขาหรือต่างสำนักกันแล้ว, จะต้องมีการ ลองวิชากัน วิวาทด่าทอกัน  แข่งกันว่า ใครจะเคร่งศาสนามากกว่ากัน  ใครจะรู้มากกว่ากัน และใครจะแพ้ชนะ, ตัวตู นี้เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้อง ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัยตูผิดไปหมด

ผมอ่านเรื่องที่  คุณYaoharee เขียน เรื่อง:

http://pantip.com/topic/30884836

เพียงสองบรรทัดเท่านั้นบรรยายสังคมไทยมุสลิมและทั่วโลกได้อย่างชัดเจนและตรงความเป็นจริงที่สุด และมีตัวอย่างให้เห็นได้ จากกลุ่มมุสลิมในห้องศาสนา พันทิปนี้  คุณๆลองอ่านและคิดดูว่า เท่าที่เห็นถูกต้องหรือไม่ โดยไมต้อง คิดว่าผมโกหกหรือไม่แต่อย่างใด อ่านดูวิทยปัญญาของประโยคข้างล่างนี้ว่าตรงกับที่คุณเห็นหรือไม่?.



เห็นได้จากเรื่องต่างๆในห้องศาสนา หากถ้ามีผู้ใดชี้ให้เห็นมุสลิมผู้ใดเลวทำชั่วผิดหลักการของศาสนาอิสลามแล้ว,เขาจะรุมกันมาเป็นกลุ่มปกป้อง คนเลว และอธิบายความชั่ว ด้วยการบิดเบือนหลักการของอัลกุรอานให้สมเหตุผลกับการทำความเลวและความชั่วที่น่าอับอายต่อสังคมภายนอกทันที,  ซึ่งมุสลิมดีๆจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับ ความหยาบคายที่ผิดจรรยาธรรม ทั้งทางหลักการของ ศาสนาอิสลามและ สังคมโดยรวม

  สำหรับเรื่องสุนัขนั้นไม่มีข้อห้ามในอัลกุรอานใดๆทั้งสิ้น มุสลิมเลี้ยงสุนัขในการ เฝ้าปศุสัตว์ และ ในการล่าสัตว์  ในการล่านก ถ้านกตกอยู่ในน้ำ หมาล่านกไป คาบนกมาถึงแม้ว่าจะถูกน้ำลายหมา ชาวอรับมุสลิมก็ ยังนำนกนั้นไปปรุงอาหาร  หลังจากทำความละอาดแล้ว.

  สิ่งสำคัญในเรื่องสุนัข ก็คือ มุสลิมจะต้องละหมาด อย่างน้อย 5 เวลาต่อวัน การทำความสะอาด ร่างกายในบางบ้าน อาจจะยุ่งยาก เมื่อถูกต้องกับสิ่งสกปรกที่สุนัขหรือสัตว์เลี้ยงนำมา โดยเฉพาะน้ำลายที่สุนัขใช้ลิ้นเลียชำระร่างกายของมัน, ลิ้นน้ำลายสุนัขจึงเป็น นะยิส หรือสิ่งสกปรกที่ จะต้องชำระล้างก่อนทำละหมาด ซึ่งเป็นการยุ่งยาก บางครอบครัวเลยตัดปัญหาไม่เลี้ยงเสียเลย และอีกประการหนึ่ง จากความสังเกตของ ชาวอรับทะเลทรายในสมัยนั้น  ถ้าผู้ใดเปรอะเปื้อนนำลายสุนัขที่ฟูมฟายและมีอาการผิดปกติ, จะเป็นโรคตายในภายหลัง, เลยเกิดความกลัวสุนัข และน้ำลายสุนัข ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่รู้จัก โรคกลัวน้ำ หรือ Hydro phobia, แต่โดยทั่วไปแล้ว ถ้าสามารถรักษาความสะอาดในกรณีที่กล่าวมา สุนัขไม่ใช่ข้อห้ามของศาสนาอิสลาม

  อีกประการหนึ่งยังมีมุสลิมอีกเป็นจำนวนมากที่ถือโชคลางเกี่ยวกับ สุนัข โดยเฉพาะสุนัขดำ ถือว่าการมีสุนัขอยู่ในบ้านแล้ว เทวดาจะไม่เข้าบ้าน หรือนำโชคร้ายมาให้ ซึ่งคำสอนนี้ไม่ได้อยู่ในหลักการของอิสลามแต่ อยู่ใน เรื่องราวประเพณีของ อรับมุสลิม, เพื่อไม่ให้การอธิบายของผมยืดเยื้อ ผมจะไม่นำตัวอย่างประเพณีอรับที่ปนอยู่ในศาสนาอิสลามมาอธิบายในที่นี้.

   ในประเทศอรับ บางประเทศ ที่เป็น มุสลิม 100%  หรือ Majority จะเลี้ยงหมาไว้ กัดกัน เพื่อมีการพนัน  ซึ่งเป็นการทารุณสัตว์และ ผิดหลักอิสลามในการเล่นการพนัน โดยเฉพาะในอาฟกานิสตาน ยังมีอยู่ทั่วทุกๆหมู่บ้าน ในปัจจุบันในขณะที่ทำสงครามอยู่นี้

  คุณๆจะเห็นว่า มุสลิมก็คือมนุษย์ ธรรมดาที่มีทั้งดีทั้งเลวเช่นดียว กับมนุษย์ในทุกๆศาสนา, ถ้าผมจะเรียนศาสนาหรือคุยกันเรื่องศาสนาผมจะไม่เข้าใกล้ พวกลามก อนาจาร หรือ ไม่มีความละอายในการ ใช้ภาพลามก, เป็นเครื่งมือในการอธิบายการปกป้องศาสนาอิสลาม และบรรดาผู้ที่เห็นดีเห็นชอบ และปิดบังความชั่วเช่นนี้

   ศาสนาอิสลามเป็นของสาธารณะไม่ใช่ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ผู้ที่ศรัทธาจะได้รับประโยชน์จากศาสนาอิสลาม ก็ต่อเมื่อ เขาปฏิบัติอย่างเข้าใจและถูกต้อง เท่านั้น  ตราบใดที่อ้างว่าเคร่งครัดต่อศาสนาอิสลามแต่ ใช้ความเลวความชั่วมาทำการ ดาวะห์  และเผยแพร่อิสลามแล้ว, ภาษาอรับเรียกว่า "มูนาฟิก" อย่างแท้จริง คือสอนแต่ในส่วนดี, แต่ตัวเองแสดงความชั่วช้าลามกออกมาให้สาธารณชนเห็น, หรือการสอนให้ผู้ทำซินาซ่อนเร้นความผิดจากสังคมจะได้ไม่ถูกลงโทษ, หรือ ใช้รูปลามกต่างๆ มาประจาน ความชั่วของผู้อื่นเป็นการโต้ตอบความชั่วด้วยความเลว, หรืออ้างอัลกุรอานอย่างผิดสภาวะการ และ ปกปิดส่วนที่อัลกุรอานบอกว่า มุสลิมจงให้อภัยผู้ที่ล่วงเกินจะเป็นการดีที่สุด.

   ศาสนาอิสลามไม่ต้องการ, การป้องกันจากผู้ใด พระเจ้าทรงประกาศไว้อย่างแจ้งชัด ว่า พระองค์เท่านั้น ที่จะปกป้องอัลกุรอาน, อิสลาม และมุสลิม,
มุสลิมไม่มีหน้าที่ในการปกป้องศาสนาอิสลาม มุสลิมมีหน้ามที่ๆจะต้องปฏิบัติตามหลักการของศาสนาอิสลามให้ถุกต้องเท่านั้น, แล้วอิสลามจะอยู่อย่างถาวรด้วยตนเอง

  ถ้ามุสลิมต้องการจะปกป้องศาสนาอิสลามจะปกป้องอิสลามจากใคร ผมจะแนะนำให้

มุสลิมในที่นี้ที่คิดจะ ปกป้อง อิสลาม จากผู้ที่ทำลายหลักการของศาสนาอิสลาม ที่ทำลาย เครดิตของอัลกุรอาน และ ท่านศาสดามูฮัมมัด นั้น ควรเริ่มต้น  จาก นาย Sam Shamoun

  http://www.answering-islam.org/authors/shamoun.html

ซึ่งอ้างว่า บัญญัติในอัลกุรอานมีการยกเลิกซึ่งกันและกัน ไม่ใช่บัญญัติของพระเจ้าอย่างแท้จริง

•Challenge to the Muslims Concerning the Quran [Part 1]
•Challenge to the Muslims Concerning the Quran [Part 2]
•Challenge to the Muslims Concerning the Quran [Part 3]
•Challenge to the Muslims Concerning the Quran [Excursus]

•Another Clear Example of Muhammad’s Inconsistency
•Muhammad Cursed and Abused His Followers
•Muhammad - The Visible Image of Allah
•Muhammad as Allah’s Heir?
•Muhammad as the Human Voice of Allah
•Invoking Muhammad In Worship [Part 1]
•Invoking Muhammad In Worship [Part 2]
•Invoking Muhammad In Worship [Part 3]

ถ้ามุสลิมในที่นี้รักศาสนาอิสลามและมีความหื่นกระหายที่จะป้องกันหลักการของศาสนาอิสลามอย่างจริงใจแล้ว ไปที่เวบดังกล่าว แล้วเลือก บทความ  ข้างบนนี้ สักเรื่องแล้ว เขียนโต้ตอบ กับนาย Sam Shamoun, อย่างที่มุสลิมในอเมริกาเขาทำกัน, ไม่ใช้มาเกาะอยู่ในเวบพันทิป,คอยจ้องจับผิดผู้ที่ไม่เข้าใจหลักการของศาสนาอิสลาม หรือสงสัยในหลักปฏิบัติของมุสลิม หรือ ผู้ที่ล้อเลียนการปฏิบัติของมุสลิม ซึ่งเป็นเรื่องเด็กๆทะเลาะกัน และแข่งความรู้ ความถูกต้องของศาสนาของกันและกัน, ซึ่งทำให้ห้องศาสนาเป็นที่เบื่อหน่ายของผู้ที่มีความรู้ดีๆจะเข้ามาร่วมสนทนาด้วย

จำไว้ว่าศาสนาอิสลามเป็นของสากล, เป็นของสาธารณะไม่ได้เป็นศาสนาของนิกายหนึ่งนิกายใดของศาสนาอิสลาม,ไม่ว่านิกายนั้นๆจะใหญ่เล็กเท่าใดก็ตาม พระเจ้าให้ศาสนาอิสลามต่อ มนุษยชาติ ทั้งโลก,  อย่าใจแคบหวงแหนอิสลาม  ให้เขารู้ให้เขาล้อเลียนจนถึงที่สุด แล้วถ้าการล้อเลียนจนถึงที่สุดแล้วจะเห็นได้ว่ามันไม่ได้ทำให้ศาสนาอิสลามสลายไปจากโลก, และเป็นที่สงสัยในใจเขา,เขาก็จะกลับมาศึกษาว่าทำไมอิสลามจึง อยู่ได้อย่างถาวร ผู้ที่ทำลายศาสนาอิสลามอย่างแท้จริงในปัจจุบันนี้ก็คือ มุสลิมบางกลุ่มที่ ละเลยคำสอนจากอัลกุรอาน และไม่ปฏิบัติตามแนวทางคำสอนของศาสดานั้นเอง.